สมุทรปราการ  รวบหนุ่มเมืองชลใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองย่านบางพลี

สมุทรปราการ  รวบหนุ่มเมืองชลใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองย่านบางพลี

*****เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 4 ก.ค.2564 พ.ต.อ.วิโรจน์  ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายพงษ์เพชร หรือแต้ม  มงคล อายุ 24 ปี เลขที่ 76/87 ม.1 ต.หนองซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ผู้ต้องหา ใช้อาวุธปืนจี้ชิ่งทรัพย์ ร้านค้าทอง เยาวราช ลิขิตเฮง ตั้งอยู่เลขที่ 127 / 22 ซอยลิขิต 7 หมู่ 12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 282/2564 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2564 โดยกล่าวหาว่า วิ่งราวทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแกการกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม  พร้อมของกลางกระเป๋าคาดอกสีดำ นาฬิกาข้อมือสีเขียว และรองเท้าแตะสีขาว ซึ่งสวมใส่ไปในขณะลงมือก่อเหตุ พร้อมด้วยรถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิ๊ก  สีดำแดง ทะเบียน 1 ขฆ-8272  กทม. ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุและหลบหนี อาวุธปืนปลอมแบบแม็กกาซีน จำนวน 1 กระบอก  โดยจับกุมตัวได้ที่ ริมถนนสุขุมวิท30 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

****สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 20 มิ.ย. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้าจี้ชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ภายในร้านค้าทอง เยาวราช ลิขิตเฮง ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 127 / 22 ซอยลิขิต 7 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ จากภาพกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในร้านค้าทองดังกล่าว ได้พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุไม่เกิน 30 ปี ใส่เสื้อแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสั้นสั้นสีเทา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิ๊ก สีดำแดง ทะเบียน 1 ขฆ-8272 กรุงเทพมหานคร มาจอดที่หน้าร้านทองดังกล่าว ก่อนเข้าไปทำทีขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทจากพนักงานในร้านทองดังกล่าว โดยผู้ก่อเหตุได้ทำทีเอาสร้อยคอทองคำเส้นดังกล่าวสวมใส่ที่คอตัวเอง ก่อนที่จะใช้มือข้างขวาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงนำปืนออกมาขู่บังคับให้พนักงานของร้ายทองดังกล่าวถอยหลังไปและห้ามส่งเสียงโวยวาย  ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งออกจากร้านและขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีออกไปทางปากซอยและเลี้ยวขวาออกถนนกิ่งแก้ว

*****จากการสืบสวนได้พบรถจยย.คันที่ผู้ก่อเหตุใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุและหลบหนี ได้ไปจอดทิ้งไว้ในลานจอดรถห้างบิ๊กซีบางพลี  จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้และตรวจสอบผู้ครอบครอง พบว่าผู้ครอบครองชื่อนายโชคชัย มงคล จึงติดตามไปเชิญตัวนายโชคชัย มาทำการสอบสวน จนทราบว่า วันที่เกิดเหตุ นายพงษ์เพชร หรือ แต้ม ได้มาขอยืมรถจยย.ของตนไป พร้อมทั้งชี้ยืนยันภาพจากกล้องวงจรปิดว่าคนในภาพดังกล่าวคือนายพงษ์เพชร  ผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานเข้าขออนุมิติหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกติดตามจับกุมตัวนายพงษ์เพชร หรือนายแต้ม และทราบว่าหลังก่อเหตุนายพงษ์เพชร ได้หลบหนีไปที่ จ.ชลบุรี และนั่งรถตู้กลับเข้ามาที่ กรุงเทพมหานคร และควบคุมตัวกลับมาทำการสอบสวนที่ สภ.บางพลี

*****จากการสอบสวน นายพงษ์เพชร ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุตนได้มาเที่ยวที่บ้านญาติ ซึ่งอยู่ในซอยเดียวกับร้านทองดังกล่าว  โดยก่อนลงมือก่อเหตุตนได้ยืมขี่รถ จยย.ของญาติที่ มาก่อเหตุ และขี่หลบหนีเอารถไปจอดที่ห้าง บิ๊กซีบางพลี และนำทองไปขายที่ร้านทองภายในห้างดังกล่าว ได้เงินมาประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท หลังได้เงินมาก็ไปซื้อเสื้อผ้ามาเปลี่ยนก่อนที่จะจะขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีกลับไปบ้านที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนอัดลม และเงินที่เหลือได้นำไปซื้อยาไอซ์และยาบ้านมาเสพ และนั่งรถตู้หลบหนีมากบดานเข้ากรุงเทพมหานครจนถูกเจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมตัว

*****เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า วิ่งราวทรัพย์ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าว วิวรรธน์ ยั่งยืนเตชานนท์ /  บก.พิทักษ์ ศิริวงศ์