09/06/2025

ข่าวเด็ด77

รวมข่าวดีรวมข่าวเด็ด จาก77 จังหวัดทั่วไทย

“กรรมาธิการแก้จนลดเหลื่อมล้ำ จับมือกรมป่าไม้ ผนึกกำลังเดินหน้าแก้จน”

“กรรมาธิการแก้จนลดเหลื่อมล้ำ จับมือกรมป่าไม้ ผนึกกำลังเดินหน้าแก้จน”
15 กุมภาพันธ์ 2565 นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธาน กมธ.การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา พร้อมด้วยรองประธานกมธ.อีกสองท่านคือ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ และนายภานุ อุทัยรัตน์ ได้เข้าพบนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีและคณะผู้บริหารระดับสูงของกรมป่าไม้ เพื่อหารือเรื่องการร่วมมือในการแก้จนให้แก่เกษตรกรทั้งประเทศ
ในเบื้องต้น ประธานคณะ กมธ. ได้บอกเล่าถึงงานของคณะ กมธ. ว่ามีหลักคิดในการแก้จนให้แก่เกษตรกรว่า
ประการแรก จะต้องเป็นรูปแบบที่ เหมาะสมและสอดคล้องกับความเป็นมาของประวัติศาสตร์ไทย สภาพของภูมิศาสตร์ วิถีการดำเนินชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา และความเชื่อของคนไทยในแต่ละท้องถิ่น
ประการที่สอง การแก้จนของแต่ละประเทศไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ละประเทศต้องค้นหารูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเอง และไม่สามารถลอกเลียนแบบจากประเทศอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จแล้วในการแก้จนได้อย่างง่ายๆ
จากการศึกษาประสบการณ์ของจีน อินเดีย และประเทศยุโรปตอนเหนือ การ และการค้นหานวัตกรรมการแก้จนในภาคการเกษตรของไทย กมธ. ได้พบรูปแบบการแก้จนในภาคการเกษตร 2 รูปแบบคือ
1. ฝายแกนดินซีเมนต์ช่วยให้เกษตรกรมีน้ำใช้ในการทำเกษตรกรรมได้ตลอดปี เช่นเดียวกับ
2. บ่อบาดาลน้ำตื้น และใช้โซล่าเซลล์
จากการหารือกันอย่างมีมิตรไมตรี ระหว่างคณะกมธ.กับกรมป่าไม้ ได้ข้อสรุปคร่าวๆ บางประการดังต่อไปนี้คือ
ประการแรก กรมป่าไม้มีความยินดีที่จะทำงานร่วมกับคณะกมธ.เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร
ประการที่สอง กรมป่าไม้มีความยินดีที่จะเข้าร่วมในโครงการที่กมธ.กรมพัฒนาที่ดินได้ริเริ่มมี่จะทำโครงการการแก้จนที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดแพร่ด้วย
ประการที่สาม สำหรับโครงการแก้จนที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดแพร่ กรมป่าไม้ยินดีให้การสนับสนุนกล้า ไม่มีค่าแก่เกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นกล้าไม้มะค่าโมง ไม้พะยูน ไม้กันเกรา ไม้ประดู่ ไม้เต็งรัง ไม้แดง และไม้เนื้อแข็งอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงไม้ไผ่อีกหลายประเภท
ประการที่สี่ กรมป่าไม้ยินดีให้การสนับสนุนการปลูกป่าด้วยไม้ดอกและไม้หอม ที่หลากหลายเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดแพร่
ประการที่ห้า สำหรับข้อหารือของกรมป่าไม้ที่อยากให้มีการเพาะกล้าไม้ที่ปัจจุบันต้องแจกปีต่อปี และกล้าไม้มีความสูงราว 30 เซนติเมตร และมีความเสี่ยงสูงที่ต้นกล้าจะตายเป็นจำนวนมาก หากกรมป่าไม้สามารถเพาะเลี้ยงต้นกล้าและดูแลกล้าไม้เป็นเวลา 2 ปี ความสูงของต้นกล้าจะอยู่ที่ราว 60-70 เซนติเมตร โอกาสที่ต้นกล้าไม้จะรอดมีสูงมากกว่าเดิมมาก
สำหรับเรื่องนี้กรรมาธิการเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี มีเหตุผลและสมควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง โดยอาจจัดตั้งเป็นกองทุน หรือให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และธุรกิจเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของต้นกล้าไม้ในปีที่สอง
ประการที่หก ท่านอธิบดีกรมป่าไม้ยินดีให้คุณพฤกษ์ โสโน ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า เข้ามาเป็นตัวแทนของกรมป่าไม้ในคณะอนุกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจของคณะ กมธ. ตามที่คณะ กมธ. เรียนเชิญ
การร่วมมือกันระหว่างคณะกมธ. กับกรมป่าไม้ เพราะเราต่างเห็นความสำคัญของป่าเป็นอย่างยิ่ง สำหรับประโยชน์ของป่านั้นมีหลากหลาย เอนกอนันต์ ปราชญ์ชาวบ้านท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า “ป่าคือซุปเปอร์มาร์เก็ตของชาวบ้าน เพราะเป็นแหล่งที่มาของอาหารและยารักษาโรค” นอกเหนือจากป่าที่เป็นแหล่งเก็บน้ำจำนวนมหาศาลเอาไว้ใต้ดินเพื่อให้“กรรมาธิการแก้จนลดเหลื่อมล้ำ จับมือกรมป่าไม้ ผนึกกำลังเดินหน้าแก้จน”
15 กุมภาพันธ์ 2565 นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธาน กมธ.การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา พร้อมด้วยรองประธานกมธ.อีกสองท่านคือ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ และนายภานุ อุทัยรัตน์ ได้เข้าพบนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีและคณะผู้บริหารระดับสูงของกรมป่าไม้ เพื่อหารือเรื่องการร่วมมือในการแก้จนให้แก่เกษตรกรทั้งประเทศ
ในเบื้องต้น ประธานคณะ กมธ. ได้บอกเล่าถึงงานของคณะ กมธ. ว่ามีหลักคิดในการแก้จนให้แก่เกษตรกรว่า
ประการแรก จะต้องเป็นรูปแบบที่ เหมาะสมและสอดคล้องกับความเป็นมาของประวัติศาสตร์ไทย สภาพของภูมิศาสตร์ วิถีการดำเนินชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา และความเชื่อของคนไทยในแต่ละท้องถิ่น
ประการที่สอง การแก้จนของแต่ละประเทศไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ละประเทศต้องค้นหารูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเอง และไม่สามารถลอกเลียนแบบจากประเทศอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จแล้วในการแก้จนได้อย่างง่ายๆ
จากการศึกษาประสบการณ์ของจีน อินเดีย และประเทศยุโรปตอนเหนือ การ และการค้นหานวัตกรรมการแก้จนในภาคการเกษตรของไทย กมธ. ได้พบรูปแบบการแก้จนในภาคการเกษตร 2 รูปแบบคือ
1. ฝายแกนดินซีเมนต์ช่วยให้เกษตรกรมีน้ำใช้ในการทำเกษตรกรรมได้ตลอดปี เช่นเดียวกับ
2. บ่อบาดาลน้ำตื้น และใช้โซล่าเซลล์
จากการหารือกันอย่างมีมิตรไมตรี ระหว่างคณะกมธ.กับกรมป่าไม้ ได้ข้อสรุปคร่าวๆ บางประการดังต่อไปนี้คือ
ประการแรก กรมป่าไม้มีความยินดีที่จะทำงานร่วมกับคณะกมธ.เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร
ประการที่สอง กรมป่าไม้มีความยินดีที่จะเข้าร่วมในโครงการที่กมธ.กรมพัฒนาที่ดินได้ริเริ่มที่จะทำโครงการการแก้จนที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดแพร่ด้วย
ประการที่สาม สำหรับโครงการแก้จนที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดแพร่ กรมป่าไม้ยินดีให้การสนับสนุนกล้า ไม่มีค่าแก่เกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นกล้าไม้มะค่าโมง ไม้พะยูน ไม้กันเกรา ไม้ประดู่ ไม้เต็งรัง ไม้แดง และไม้เนื้อแข็งอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงไม้ไผ่อีกหลายประเภท
ประการที่สี่ กรมป่าไม้ยินดีให้การสนับสนุนการปลูกป่าด้วยไม้ดอกและไม้หอม ที่หลากหลายเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดแพร่
ประการที่ห้า สำหรับข้อหารือของกรมป่าไม้ที่อยากให้มีการเพาะกล้าไม้ที่ปัจจุบันต้องแจกปีต่อปี และกล้าไม้มีความสูงราว 30 เซนติเมตร และมีความเสี่ยงสูงที่ต้นกล้าจะตายเป็นจำนวนมาก หากกรมป่าไม้สามารถเพาะเลี้ยงต้นกล้าและดูแลกล้าไม้เป็นเวลา 2 ปี ความสูงของต้นกล้าจะอยู่ที่ราว 60-70 เซนติเมตร โอกาสที่ต้นกล้าไม้จะรอดมีสูงมากกว่าเดิมมาก
สำหรับเรื่องนี้กรรมาธิการเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี มีเหตุผลและสมควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง โดยอาจจัดตั้งเป็นกองทุน หรือให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และธุรกิจเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของต้นกล้าไม้ในปีที่สอง
ประการที่หก ท่านอธิบดีกรมป่าไม้ยินดีให้คุณพฤกษ์ โสโน ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า เข้ามาเป็นตัวแทนของกรมป่าไม้ในคณะอนุกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจของคณะ กมธ. ตามที่คณะ กมธ. เรียนเชิญ
การร่วมมือกันระหว่างคณะกมธ. กับกรมป่าไม้ เพราะเราต่างเห็นความสำคัญของป่าเป็นอย่างยิ่ง สำหรับประโยชน์ของป่านั้นมีหลากหลาย เอนกอนันต์ ปราชญ์ชาวบ้านท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า “ป่าคือซุปเปอร์มาร์เก็ตของชาวบ้านเพราะเป็นแหล่งที่มาของอาหารและยารักษาโรค” นอกเหนือจากที่ป่าเป็นแหล่งเก็บน้ำใต้ดินจำนวนมหาศาลที่ช่วยให้ผืนแผ่นดินดินมีความชุ่มชื้น แล้ว ป่ายังช่วยป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง และเป็นการรักษาพันธสัญญาระหว่างประเทศของรัฐบาลไทยที่จะเพิ่มจำนวนคาร์บอนเครดิตให้แก่โลกและมวลมนุษยชาติอีกด้วย
ผมคิดว่า หากเรากำลังคิดที่จะสร้างเด็กไทยให้เป็นกำลังสำคัญในการสร้างชาติไทยให้เข้มแข็งและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมที่สันติสุขในอนาคต เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องสร้างเงื่อนไขที่ช่วยให้เด็กๆ ได้อยู่อย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนจนกระทั่งพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
หากเราไมใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะให้เด็กๆ ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ แทนที่จะให้เด็กอ่านหนังสือหรือชมคลิปหรือวิดีโอที่เกี่ยวกับธรรมชาติเพียงเท่านั้น เราจะสร้างเด็กๆ ที่มีคุณภาพชีวิตทั้งทางด้านสุขภาพจิตและกายที่ดีได้อย่างไร ?
หากเราต้องการผู้ใหญ่ในอนาคตที่จะมีชีวิตและใช้ชีวิตในฐานะที่เป็น ”ส่วนหนึ่ง” ของธรรมชาติมากกว่าคนรุ่นเรา เรา ก็ควรที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นป่าให้เกิดขึ้นในทุกทุกหนแห่งของประเทศให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยสร้างเงื่อนไขให้เด็กๆ รักและผูกพันด้วยหัวใจและจิตวิญญาณกับธรรมชาติ เพราะนี่เป็นการสร้างความสงบสุขภายในจิตใจของมวลผู้คนในท่ามกลางความสงบสุขของป่า และความสงบสุขและะสันติสุขของสังคมไทยในอนาคต

 

You may have missed