08/06/2025

ข่าวเด็ด77

รวมข่าวดีรวมข่าวเด็ด จาก77 จังหวัดทั่วไทย

รพ.แม่ลาวงดแถลงข่าวไร้เงาหมอจอมทุบ

รพ.แม่ลาว งดแถลงข่าว เผยหมอหนุ่มสำนึกผิดก่อนถูกย้ายไปช่วยงาน สสจ. ด้านพยาบาลสาวยังอยู่ในช่วงลาหยุดพัก

วันที่ 21 ส.ค. 67 จากกรณีข่าวหมอหนุ่มใน รพ.แม่ลาว ทุบหลังพยาบาลสาว ได้เผยแพร่ออกไป จนเป็นกระแสในโลกโซเซียล และทางหน่วยงานต้นสังกัดได้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยกับหมดคนดังกล่าว โดยทางโรงพยาบาลได้รับปากจะแถลงความคืบหน้ากับผู้สื่อข่าวในวันนี้ (21 ส.ค.)

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.แม่ลาว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว แต่ทาง รพ.แม่ลาว ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า ทาง รพ.แม่ลาว ได้ดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนหมอหนุ่มคนก่อเหตุ และเยียวยาจิตใจพยาบาลสาวที่ถูกกระทำไปแล้ว โดยมีการชี้แจงอย่างต่อเนื่องทั้งในเว็บเพจของโรงพยาบาล และช่องทางการนำเสนอข่าวของ สสจ.เชียงราย จึงของดการแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว

 

จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ทางพยาบาลสาวยังอยู่ในระหว่างการลาพัก ตั้งแต่วันที่ 20-22 ส.ค. จะกลับมาทำงานอีกครั้งในวันที่ 23 ส.ค. ที่จะถึงนี้ เกี่ยวกับกระแสข่าวที่ออกไป ส่งผลให้มีการโยกย้ายนายแพทย์คนก่อเหตุไปช่วยงานที่ สสจ.เชียงราย ก็ส่งผลกระทบต่อการทำงานของบุคลากรใน รพ.แม่ลาว เพราะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก จำนวน 30 เตียง รองรับผู้ป่วยนอกประมาณ 300 คนต่อวัน แต่เดิมมีหมอรักษาคนไข้ 7 คน แต่ล่าสุดถูกโยกย้ายไป 1 คน เหลือหมอที่ทำงานตรวจคนไข้เพียง 6 กับพยาบาลประมาณ 40 คน หลังจากนี้ทางโรงพยาบาลก็ตัองปรับเปลี่ยนเวรการทำงานให้เหมาะสม ไม่ให้กระทบกับคนไข้ที่มาใช้บริการ ส่วนหมอที่จะโยกย้ายเข้ามาแทน ต้องรออัตราโยกย้ายประจำปีว่าจะหมอคนใหม่ย้ายมาทำงานหรือไม่ ซึ่งปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในโรงพยาบาล เป็นปัญหาใหญ่ของโรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง รวมถึง รพ.แม่ลาวนี้ด้วย หากในระหว่างนี้มีปัญหาหมอไม่พอกับจำนวนคนไข้ ก็อาจจะต้องแก้ปัญหาโดยการขอยืมตัวหมอจากโรงพยาบาลอื่นมาช่วยงานเป็นการเร่งด่วนไปก่อน

 

จากการสอบถามเพิ่มเติมทราบว่า หมอคนก่อเหตุที่โดนโยกย้ายไป ได้รู้สึกผิดกับเกตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนไปก็ได้มาขอโทษทั้งฝ่ายบริหารและตัวพยาบาลที่โดนทุบหลังแล้ว ส่วนตัวพยาบาลสาวทาง รพ.ก็ได้ส่งทีมงานไปดูแลทางจิตใจ และจะมีการติดตามผลโดยตลอด โดยปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการใช้อารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับแพทย์พยาบาลในหลายๆแห่ง เพราะต้องเจอกับเรื่องเครียดจากหลายทาง แต่หน่วยงานต้นสังกัดก็ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในองค์กรแต่อย่างได หากพบความผิดเกิดขึ้นก็จะต้องดำเนินการสอบสวนเพื่อลงโทษทางวินัยอย่างเหมาะสมต่อไป

 

ด้านเว็บข่าวของโรงพยาบาลแม่ลาว ได้เผยแพร่ภาพข่าวการตรวจเยี่ยมและติดตามกรณีเกิดขึ้น โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มี ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 พร้อมด้วย พญ.บุญศิริ จันศิริมงคล สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 1 นำทีมคณะผู้บริหารเขตสุขภาพที่ 1 และผู้แทนชมรมพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลให้กำลังใจ พร้อมมอบช่อดอกไม้ให้แก่เจ้าหน้าที่พยาบาล ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของแพทย์ขณะปฎิบัติงานที่โรงพยาบาลแม่ลาว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย โดยมีครอบครัว ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่ลาว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ดูแล ให้กำลังใจ อย่างใกล้ชิด

 

ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณน้องพยาบาล ที่ตั้งใจทำงานร่วมกันดูแลประชาชนและช่วยกันทำงานอย่างอย่างดีตลอดมาและขอขอบคุณครอบครัวของน้องที่เลี้ยงดูและดูแลน้องมาอย่างดี ทั้งนี้ผู้บริหารเขตสุขภาพที่ 1 ขอเป็นกำลังใจให้น้องพยาบาลและครอบครัว และจะส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและปราศจากความกังวลเกี่ยวกับการกระทำรุนแรงใด ๆ รวมถึงเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่เคารพในศักดิ์ศรีและคุณค่าของทุกคน

 

ด้าน นพ.คงศักดิ์ ชัยชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่ลาว กล่าวว่า ต้องขอกราบขอบพระคุณ ท่านผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1, ท่านสาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 1 และท่านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงรายที่ได้เมตตา และแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ โรงพยาบาลแม่ลาว ในขณะนี้ขวัญและกำลังใจของน้องพยาบาล ผู้ประสบเหตุ รวมถึงครอบครัว มีความเข้มแข็งมากขึ้น น้องพยาบาลพร้อมที่จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ด้วยใจที่แข็งแกร่งอีกครั้ง และทางครอบครัวก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่งต่อความใส่ใจและความเมตตาจากคณะผู้บริหาร รวมถึงตัวแทนจากเครือข่ายพยาบาล-แพทย์ในเขตสุขภาพ ที่ได้ให้การสนับสนุนและให้กำลังใจแก่ทั้งน้องพยาบาลและครอบครัวอย่างเต็มที่

 

คณะผู้บริหาร และฝ่ายปฏิบัติการพยาบาลและการแพทย์ของโรงพยาบาลแม่ลาว ขอน้อมรับข้อเสนอแนะและโอวาทจากท่านผู้ตรวจราชการ เพื่อพัฒนาบรรยากาศการทำงานและสร้างเสริมขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรทุกคน ซึ่งจะเป็นการเอื้ออำนวยให้บริการด้านการรักษาพยาบาลสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และพร้อมให้บริการแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

You may have missed